วิธีเลือกแรงตึงของเอ็น (String Tension) ที่เหมาะกับการเล่นของเรา

 

แรงตึงของเอ็นไม้เทนนิส (String Tension) เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการควบคุมบอล (Control), พลัง (Power), และความรู้สึก (Feel) ในการตี ซึ่งผู้เล่นแต่ละคนควรเลือกแรงตึงที่เหมาะกับสไตล์การเล่นของตัวเอง

1. ทำความเข้าใจช่วงแรงตึงของเอ็น

 

แรงตึงของเอ็นโดยทั่วไปอยู่ในช่วง 40 – 70 ปอนด์ (lbs) หรือประมาณ 18 – 32 กิโลกรัม (kg) โดยแบ่งเป็น 3 ช่วงหลัก

แรงตึง (ปอนด์)	ลักษณะของการเล่น	เหมาะสำหรับ
ต่ำ (40-50 lbs)	พลังเยอะ, ลูกเด้งดี, ควบคุมยาก	มือใหม่, คนต้องการพลัง
ปานกลาง (50-60 lbs)	สมดุลระหว่างพลังและการควบคุม	ผู้เล่นทั่วไป, All-around
สูง (60-70 lbs)	ควบคุมลูกดี, ลดพลัง, ลูกเด้งน้อย	ผู้เล่นระดับสูง, ชอบตีสปิน

2. แรงตึงต่ำ vs. แรงตึงสูง ต่างกันอย่างไร?

 

แรงตึงต่ำ (40-50 lbs)

 

✅ ข้อดี

• ให้พลังในการตีมากขึ้น (Power)

• ลูกเด้งจากไม้ได้ดีขึ้น

• ตีง่าย เหมาะกับมือใหม่

• ลดแรงกระแทกที่ข้อศอกและแขน

 

❌ ข้อเสีย

• ควบคุมทิศทางลูกยากขึ้น

• ลูกอาจพุ่งออกข้างหลังง่าย

• อาจต้องใช้เทคนิคเพิ่มสปินเพื่อลดพลัง

แรงตึงสูง (60-70 lbs)

 

✅ ข้อดี

• ควบคุมลูกดีขึ้น (Control)

• ลดความผิดพลาดของการตีลูกออกหลัง

• เหมาะกับผู้เล่นที่ตีแรงอยู่แล้ว

 

❌ ข้อเสีย

• ต้องใช้แรงตีเยอะขึ้น

• ลดความเด้งของลูก ทำให้ต้องออกแรงมาก

• อาจเพิ่มความเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บ (Tennis Elbow)

3. วิธีเลือกแรงตึงของเอ็นให้เหมาะกับตัวเอง

 

(1) ดูจากระดับฝีมือของตัวเอง

• มือใหม่ → ควรเริ่มที่แรงตึงต่ำ (50-55 lbs) เพื่อช่วยให้ตีลูกง่ายขึ้น

• ผู้เล่นระดับกลาง → 55-60 lbs เพื่อสมดุลระหว่างพลังและการควบคุม

• ผู้เล่นระดับสูง → 60-65 lbs เพื่อให้สามารถควบคุมลูกได้ดี

(2) เลือกตามสไตล์การเล่น

• สายตีพลัง (Power Player) → ใช้แรงตึงสูง (55-65 lbs) เพื่อให้ลูกพุ่งไปตามทิศทางที่ต้องการ

• สายตีสปิน (Spin Player) → ใช้แรงตึงปานกลางถึงต่ำ (50-55 lbs) เพื่อให้ลูกมีการหมุนที่ดี

• สายควบคุม (Control Player) → ใช้แรงตึงสูง (60-65 lbs) เพื่อให้สามารถควบคุมลูกได้แม่นยำขึ้น

(3) ดูประเภทของเอ็นที่ใช้

• เอ็นแบบ Multifilament / Natural Gut → ให้พลังสูงขึ้น ควรใช้แรงตึงมากขึ้นเล็กน้อย

• เอ็นแบบ Polyester / Kevlar → แข็งและควบคุมลูกดี ควรใช้แรงตึงต่ำลงเล็กน้อย

(4) ทดสอบและปรับตามความรู้สึก

• หากรู้สึกว่า ลูกออกหลังบ่อย → เพิ่มแรงตึงขึ้น 2-3 lbs

• หากรู้สึกว่า ลูกไม่เด้ง ตีไม่แรง → ลดแรงตึงลง 2-3 lbs

• หากมีอาการ ปวดแขน/ข้อศอก → ลองลดแรงตึงและใช้เอ็นที่นุ่มขึ้น

4. สรุปแนวทางการเลือกแรงตึงของเอ็น

สไตล์การเล่น	แนะนำแรงตึง (lbs)
มือใหม่	50-55 lbs
ผู้เล่นทั่วไป	55-60 lbs
ผู้เล่นที่ต้องการพลัง	45-55 lbs
ผู้เล่นที่ต้องการควบคุมลูก	60-65 lbs
ผู้เล่นที่ตีสปินหนัก	50-55 lbs

5. เคล็ดลับเพิ่มเติม

 

✅ ลองเริ่มต้นจากช่วงแรงตึงมาตรฐานของไม้เทนนิส (เช่น 55-58 lbs) แล้วค่อยปรับ

✅ ทดสอบแรงตึงต่าง ๆ เพื่อหาค่าที่เหมาะกับการเล่นของตัวเอง

✅ หมั่นเช็กว่าเอ็นเริ่มหย่อนหรือไม่ เพราะแรงตึงของเอ็นจะลดลงเรื่อย ๆ เมื่อใช้งาน

✅ ปรึกษาโค้ชหรือผู้เชี่ยวชาญเรื่องเอ็นหากยังไม่แน่ใจ

สรุปสั้น ๆ

• แรงตึงต่ำ (50 lbs หรือต่ำกว่า) = พลังเยอะ ตีง่าย ควบคุมยาก

• แรงตึงกลาง (50-60 lbs) = สมดุลระหว่างพลังและการควบคุม

• แรงตึงสูง (60+ lbs) = ควบคุมดีขึ้น แต่ต้องใช้แรงมากขึ้น

 

ลองเลือกและปรับแรงตึงให้เหมาะกับสไตล์การเล่นของคุณ แล้วทดสอบจนกว่าจะเจอค่าที่ลงตัวที่สุด!